5 เหตุผลที่ต้องเช็กขนาดห้องก่อนซื้อเครื่องฟอกอากาศ

5 เหตุผลที่ต้องเช็กขนาดห้องก่อนซื้อเครื่องฟอกอากาศ

5 เหตุผลที่ต้องเช็กขนาดห้องก่อนซื้อเครื่องฟอกอากาศ

5 เหตุผลที่ต้องเช็กขนาดห้องก่อนซื้อเครื่องฟอกอากาศ ในยุคที่อากาศบริสุทธิ์กลายเป็นเรื่องที่ต้อง “ซื้อ” มาด้วยเทคโนโลยี เครื่องฟอกอากาศ จึงกลายเป็นไอเทมสำคัญที่ไม่ใช่แค่มีไว้เพื่อความอุ่นใจ แต่มีไว้เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่พบบ่อยที่สุดสำหรับผู้ที่กำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศคือ การเลือกโดยพิจารณาจาก “ดีไซน์” หรือ “โปรโมชันราคา” เป็นหลัก จนลืมคำนึงถึงปัจจัยที่สำคัญที่สุด นั่นคือ “ความเหมาะสมกับขนาดพื้นที่”

ทำไมการเลือกขนาดเครื่องให้พอดีกับห้องถึงเป็นเรื่องสำคัญ? นี่คือ 5 เหตุผลที่จะเปลี่ยนวิธีคิดในการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศของคุณไปตลอดกาล

1. ประสิทธิภาพในการทำความสะอาดอากาศ (The CADR Factor)

หัวใจสำคัญของเครื่องฟอกอากาศไม่ใช่แค่แผ่นกรอง แต่คือค่า CADR (Clean Air Delivery Rate) หรืออัตราการส่งผ่านอากาศบริสุทธิ์ หากคุณใช้เครื่องที่มีค่า CADR ต่ำในห้องที่มีขนาดใหญ่เกินไป เครื่องจะไม่สามารถผลักอากาศสะอาดให้หมุนเวียนได้ทั่วทุกมุมห้อง

อากาศในห้องควรถูกฟอกอย่างน้อย 4-5 รอบต่อชั่วโมง (Air Change per Hour) หากเครื่องเล็กเกินไป อากาศภายในห้องอาจจะยังไม่ถูกทำให้สะอาดทั่วทุกมุมห้อง แม้ตัวเครื่องจะโชว์ไฟสถานะสีฟ้าว่าอากาศสะอาดแล้วก็ตาม

หลายคนกังวลว่าหากมีห้องโถงกว้างหรือคอนโดแบบ Open Plan จะต้องใช้เครื่องฟอกอากาศขนาดใหญ่เพียงเครื่องเดียวเท่านั้น แต่ในความเป็นจริง การใช้เครื่องฟอกอากาศขนาดเล็กหรือขนาดกลาง 2 เครื่อง วางแยกจุดกัน อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่าด้วยเหตุผลดังนี้:

  • Cross-Ventilation (การไหลเวียนอากาศแบบข้ามฝั่ง): การวางเครื่องฟอกอากาศ 2 เครื่องไว้คนละมุมห้อง จะช่วยสร้างการไหลเวียนอากาศได้ทั่วถึงกว่าเครื่องเดียวที่วางอยู่กลางห้อง เพราะสามารถดึงอากาศเสียจากมุมอับเข้าสู่ฟิลเตอร์ได้พร้อมกัน
  • ความยืดหยุ่นในการใช้งาน: วันไหนที่คุณใช้งานเพียงโซนเดียว (เช่น โซนทำงาน) ก็เปิดเพียงเครื่องเดียวเพื่อประหยัดไฟ แต่เมื่อมีกิจกรรมรวมตัวกันในห้องนั่งเล่น ก็สามารถเปิดพร้อมกันเพื่อเพิ่มพลังการฟอกอากาศเป็นเท่าตัว
  • จัดการจุดเสี่ยงได้ตรงจุด: คุณสามารถวางเครื่องหนึ่งไว้ใกล้ประตูทางเข้าเพื่อดักฝุ่นจากภายนอก และอีกเครื่องไว้ใกล้โซฟาพักผ่อน เพื่อสร้าง “Clean Air Zone” เฉพาะจุดที่ใช้งานบ่อยที่สุด
ขนาดห้อง (ตร.ม.)ความสูงเพดาน (ม.)ค่า CADR ที่แนะนำ (m³/hr)เหมาะสำหรับพื้นที่
10 – 15 ตร.ม.2.5 – 2.8150 – 200ห้องนอนขนาดเล็ก, ห้องทำงาน
20 – 25 ตร.ม.2.5 – 2.8250 – 350ห้องนอนใหญ่, คอนโด Studio
30 – 40 ตร.ม.2.5 – 2.8400 – 500ห้องนั่งเล่น, คอนโด 1 Bedroom
50 ตร.ม. ขึ้นไป2.5 – 2.8600+ห้องโถงกว้าง, ออฟฟิศขนาดกลาง

2. การทำงานเกินขีดจำกัดของมอเตอร์และระบบกรอง

เครื่องฟอกอากาศขนาดเล็กเมื่อถูกนำไปวางในพื้นที่กว้าง เซนเซอร์ตรวจจับฝุ่นจะสั่งให้เครื่องทำงานในระดับ Max Power แทบจะตลอดเวลา เพราะค่าฝุ่นในอากาศไม่ลดลงถึงระดับที่ปลอดภัย

การที่มอเตอร์ทำงานหนักต่อเนื่องจะทำให้อายุการใช้งานของเครื่องสั้นลง นอกจากนี้ แผ่นกรองอากาศ (HEPA Filter) จะเกิดการอัดแน่นของฝุ่นในจุดเดียวอย่างรวดเร็ว ทำให้ประสิทธิภาพการดักจับฝุ่นลดลงและต้องเปลี่ยนไส้กรองบ่อยกว่าที่ควรจะเป็น

3. “ค่าไฟ” ที่พุ่งสูงขึ้นโดยไม่จำเป็น

หลายท่านเลือกซื้อเครื่องขนาดเล็กเพราะคิดว่าจะประหยัดไฟมากกว่าเครื่องขนาดใหญ่ แต่ในความเป็นจริง เครื่องขนาดใหญ่ที่ทำงานในโหมดปกติ (Medium/Low) จะกินไฟน้อยกว่าและฟอกอากาศได้ปริมาณมากกว่า เครื่องขนาดเล็กที่รันโหมด Turbo ตลอดทั้งวัน

การเลือกเครื่องที่รองรับพื้นที่ได้มากกว่าขนาดห้องจริงประมาณ 20-30% จะช่วยให้เครื่องทำงานในสภาวะที่เหมาะสม ซึ่งประหยัดพลังงานมากกว่าในระยะยาว

4. เสียงรบกวนที่ทำลายสมาธิและการนอนหลับ

สำหรับคนรักสุขภาพ “การนอน” คือการพักผ่อนที่ดีที่สุด หากคุณใช้เครื่องฟอกอากาศผิดขนาด คุณจะเจอกับปัญหาเสียงพัดลมที่ดัง เพื่อเร่งฟอกอากาศให้ทันกับขนาดห้อง ซึ่งเสียงที่เกิน 50-60 เดซิเบลนั้นเพียงพอที่จะรบกวนคลื่นสมองขณะหลับ

การใช้เครื่องที่เหมาะกับขนาดห้องจะทำให้คุณสามารถใช้ “Sleep Mode” ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อากาศจะสะอาดโดยที่เครื่องทำงานเงียบสนิทจนแทบไม่ได้ยินเสียง

5. ความคุ้มค่าในการลงทุน (Value for Money)

การซื้อเครื่องฟอกอากาศที่ถูกที่สุดแต่ใช้งานไม่ได้จริงในพื้นที่ของคุณ คือการเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ เพราะคุณไม่ได้สิ่งที่ต้องการที่สุดนั่นคือ “อากาศที่สะอาด”

ก่อนซื้อควรถามตัวเองว่าห้องที่จะนำไปวางมีพื้นที่กี่ตารางเมตร (กว้าง x ยาว) และตรวจสอบสเปกเครื่องว่าระบุพื้นที่ครอบคลุม (Effective Area) ไว้เท่าไหร่ เพื่อให้ทุกบาทที่คุณจ่ายไป แลกมาด้วยลมหายใจที่ปลอดภัยจริงๆ

สุดท้ายแล้ว การเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศไม่ใช่เพียงการมองหาเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยที่สุด แต่คือการหาเครื่องที่ “ทำงานได้จริง” ในพื้นที่ที่คุณอยู่ การสละเวลาเพียงไม่กี่นาทีเพื่อวัดขนาดห้องและตรวจสอบค่า CADR จะช่วยให้คุณประหยัดทั้งเงินในกระเป๋า ประหยัดค่าไฟ และที่สำคัญที่สุดคือการปกป้องสุขภาพของตัวคุณและคนที่คุณรักได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

สนใจเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ : https://bit.ly/alive-air