การตั้งค่า HR Zone ผ่าน Garmin Connect

ในปัจจุบัน HR Zone นั้นเป็นที่รู้จัก และใช้กันอย่างแพร่หลาย เนื่องจากเป็นค่าที่สำคัญในการออกกำลังกาย เพราะฉะนั้นเราจึงควรจะตั้งค่า HR Zone ให้ตรงกับสมรรถภาพของร่างกายเราให้มากที่สุด เพื่อให้ HR Zone ช่วยบอกความเหนื่อย, ความหนัก-เบา ในการออกกำลังกายให้แม่นยำที่สุด
มาลองตั้งค่า HR Zone ผ่าน App. Garmin Connect ตามขั้นตอน ไปพร้อมๆกันเลยครับ

  1. กดเข้าไปที่รูปนาฬิกา
    หลักจากเปิด App Garmin Connect และเปิด Bluetooth เชื่อมต่อกับนาฬิกาเรียบร้อยแล้ว
  2. เลือกที่ “การตั้งค่าผู้ใช้” (User Setting)
  1. เลื่อนลงมา และเลือกที่ “กำหนดค่าโซนอัตราการเต้นของหัวใจ” (Configure Heart Rate Zones)
  2. เลือกวิธีการคำนวณโซนอัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งมีให้เลือกถึง 3 วิธี
  1. การแบ่ง HR Zone มี 3 วิธีดังนี้
  2. % อัตราหัวใจสูงสุด ( % of Max Heart Rate)
    คำนวณจากอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุด (Max HR) และแบ่งออกเป็นเปอร์เซนต์
  3. % เกณฑ์แลคเตท ( % of Lactate Threshold)
    คำนวณหาค่า Lactate Threshold โดยการทดสอบด้วยการออกกำลังกาย
  4. % อัตราการเต้นของหัวใจที่สำรอง ( % of Heart Rate Reserve)
    คำนวณจากการวัดค่า Max HR และอัตราการเต้นหัวใจขณะพัก (Resting HR)
    โดยการเลือกใช้ HR Zone ในแต่ละแบบนั้นมีข้อดี ข้อเสีย และหลักการในการคำนวณที่แตกต่างกันได้ ดังนั้นผู้ใช้ควรจะศึกษาวิธีการใช้งาน การคำนวณ และเลือกวิธีการที่เหมาะสมกับตนเองมากที่สุด
  1. การหาค่า Resting Heart Rate
    วิธีการหาอัตราการเต้นของหัวใจขณะพัก
  2. ใช้ค่า Resting Heart Rate ที่ได้จากการใส่นาฬิกา Garmin นอน
    ควรจะใช้ค่า Last 7 Days Avg. RHR หรือค่า Resting Heart Rate เฉลี่ย 7 วันล่าสุด
    (ควรใส่นาฬิกาแน่นพอสมควร และต่อเนื่องกัน 7 วันเป็นอย่างน้อย)
  3. ใช้ค่าที่ได้จากการวัดชีพจรด้วยตนเอง
    สามารถวัดค่าชีพจรตนเองขณะที่ตื่นนอนได้ 2 จุดคือบริเวณคอ หรือบริเวณข้อมือ โดยจะนับอัตราการเต้นของตัวใจประมาณ 1 นาที แต่อย่างไรก็ตาม เราควรจะนำค่าที่ได้มาจดบันทึก และเฉลี่ยเป็นเวลา 7 วันด้วยเช่นกัน
  4. การตั้งค่า HR Zone เฉพาะสำหรับการวิ่ง จักรยาน และว่ายน้ำ
    สำหรับนักกีฬาที่ต้องการฝึกซ้อมเพื่อความเป็นเลิศ หรือต้องการเห็นผลจากการฝึกซ้อมกีฬาแต่ละชนิดอย่างจริงจัง
    HR Zone เฉพาะกีฬานั้นคือว่าจำเป็นเป็นอย่างยิ่งสำหรับการฝึกซ้อม เพราะว่าจริงๆแล้ว HR Zone ในกีฬาวิ่ง กับ HR Zone ในกีฬาจักรยานนั้น ส่วนใหญ่แล้วจะมีค่าที่ไม่เท่ากัน เพราะกีฬาต่างประเภทกันมีการใช้กล้ามเนื้อไม่เหมือนกัน และแรงกระแทกของร่างกายก็ไม่เท่ากัน
    ดังนั้นถ้าคุณต้องการซ้อมกีฬาอย่างจริงจัง การตั้งค่า HR Zone เฉพาะประเภทกีฬานั้นเป็นอะไรที่ตอบโจทย์นักกีฬาได้อย่างดีที่สุด
    มาลองนำไปใช้กันได้นะครับ